วันเสาร์ที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2557


                     บันทึกอนุทินครั้งที่9
                              วันอังคารที่ 21 ตุลาคม 2557
ความรู้ที่ได้รับ
                     เด็กบกพร่องทางพฤติกรรมและอารมณ์ (Children with Behavioral and Emotional Disorders) หมายถึง เด็กที่แสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสม (ต่อต้านตนเองหรือผู้อื่น) หรือมีความรู้สึกนึกคิดที่ผิดไปจากปกติ (แสดงออกถึงความต้องการทำร้ายตนเองหรือผู้อื่น มีความเชื่อมั่นในตนเองต่ำ) ออกมาอย่างเนื่องจนถึงระดับที่ส่งผลกระทบต่อการศึกษาของเด็กไม่ว่าจะเพียงลักษณะเดียว หรือหลายลักษณะร่วมกันก็ได้ เช่น มีความยากลำบากในการเรียน ซึ่งไม่สามารถอธิบายได้ด้วยเหตุผลทางด้านสติปัญญา ประสาทสัมผัส หรือสุขภาพ มีความยากลำบากในการสร้างหรือคงไว้ซึ่งความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างเพื่อนและครู แสดงออกถึงภาวะความเครียดและไม่มีความสุขอย่างเป็นปกติ มีแนวโน้มของอาการทางสุขภาพร่างกาย หรือความกลัวอันเป็นผลของปัญหาที่เกิดกับตัวเด็กเองหรือปัญหาที่เกิดในโรงเรียน ซึ่งปัจจุบันมีผู้ปกครองจำนวนไม่น้อยที่ต้องเผชิญกับปัญหาความบกพร่องทางพฤติกรรมและอารมณ์ของลูกครั้งแล้วครั้งเล่า ซึ่งปัญหาเหล่านั้น ส่วนใหญ่สามารถได้รับการช่วยเหลือหรือแก้ไขได้ หากเด็กได้รับการรักษาที่ถูกต้อง อย่างไรก็ตาม ปัญหาของเด็กในบางกรณีอาจจะมีความรุนแรง ซึ่งเป็นสัญญาณของปัญหาสำคัญที่เด็กกำลังเผชิญอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากปัญหาความบกพร่องทางพฤติกรรมและอารมณ์ของเด็กเรื้อรังติดต่อกันเป็นเวลานานจนกระทั่งเด็กโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว ผลเสียที่ตามมาอาจลุกลามไปถึงการสูญเสียของชีวิตก็เป็นได้
                    ความพิการซ้อน (Multiple Disabilities) หมายถึง ความบกพร่องร่วมกันมากกว่า 1 ลักษณะที่เกิดขึ้นต่อบุคคล (Simultaneous impairments) อาทิเช่น บกพร่องทางสติปัญญาร่วมกับตาบอด หรือบกพร่องทางสติปัญญาร่วมกับความผิดปกติของกระดูกและกล้ามเนื้อโดยปกติแล้ว สำหรับเด็ก ความซ้ำซ้อนเหล่านี้มักก่อให้เกิดปัญหาในการเรียนรู้ เนื่องจากเด็กไม่สามารถเข้ารับการศึกษาพิเศษที่เหมาะสมต่อความบกพร่องทางใดทางหนึ่งเพียงอย่างเดียวได้เด็กพิการซ้อนมักมีปัญหาความผิดปกติที่หลากหลาย ซึ่งมักได้แก่ การพูด การเคลื่อนไหวร่างกาย การเรียนรู้ การมองเห็น การได้ยิน ความบกพร่องทางสติปัญญา เป็นต้น นอกจากนี้ เด็กยังอาจมีภาวะสูญเสียการรับรู้ทางประสาทสัมผัส (Sensory Losses) รวมทั้งมีปัญหาด้านพฤติกรรมและสังคมเด็กพิการซ้อนแต่ละราย จะมีความแตกต่างกันทางลักษณะและระดับความรุนแรงของอาการ เด็กกลุ่มนี้มักมีความบกพร่องทางการได้ยินและมีปัญหาในการประมวลผลของสิ่งที่ได้ยิน รวมถึงมีข้อจำกัดในการพูด การเคลื่อนไหวของร่างกาย เด็กอาจมีความลำบากในการปฏิบัติและจดจำ อีกทั้งยังไม่สามารถนำทักษะที่มีไปปรับใช้ได้เมื่อสถานการณ์เปลี่ยนไป เพราะฉะนั้นแล้ว ความช่วยเหลือและการสนับสนุนเด็กกลุ่มนี้ให้ได้รับโอกาสในการมีชีวิตที่ดี ซึ่งวิธีการดูแลและรักษาความพิการซ้อนจะแตกต่างกันไปในเด็กแต่ละราย โดยพิจารณาจากสาเหตุและลักษณะพฤติกรรมที่เด็กแสดงออก


สรุปองค์ความรู้ : แผนผังความคิด



บุคลตัวอย่างที่มีความพิการซ้อน
เฮเลน  เคลเลอร์ (Helen  Keller)
           ผู้นำสตรีในกลุ่มผู้พิการซ้ำซ้อน ที่สามารถฝ่าฝันอุปสรรคทางร่างกายทั้ง ตาบอด หูหนวก และเป็นใบ้  ต่อสู้ชีวิตได้อย่างงดงามวิถีชีวิตของ “เฮเลน  เคลเลอร์ที่พิการซ้ำซ้อน ทำให้ท่านต้องต่อสู้กับการดำเนินชีวิตประจำวันอย่างหนักหน่วง เรื่องที่เป็นปกติธรรมดาของผู้คนที่ปกติ  เช่น  การฝึกออกเสียง  ฝึกพูด กลับกลายเป็นเรื่องที่ยากเย็นแสนเข็ญสำหรับเธอเฮเลนสามารถเรียนจบวิทยาลัย เมื่อมีอายุ 24 ปี เธอสำเร็จการศึกษาปริญญาตรี เกียรตินิยมอันดับ 2 โดยเป็นนักศึกษาพิการตาบอดหูหนวก คนแรกในสหรัฐฯที่เรียนจบในระดับมหาวิทยาลัยและระยะเวลาทอดยาวนานถึง 50 ปีกว่าจะมีคนพิการที่สำเร็จการศึกษาเป็น คนที่  

ความรู้ที่ได้รับ
  1. เกิดความเข้าใจในธรรมชาติและพฤติกรรมการเรียนรู้ของเด็กพิเศษเพิ่มมากขึ้น
  2. เด็กพิเศษมาหลากหลายประเภทแต่ละประเภทมีกระบวนการเรียนรู้ที่เเตกต่างกัน
  3. ผู้ปกครองควรมีความรู้และมีจิตใจที่เข้มแข็งในการที่จะเลี้ยงดูเด็กพิเศษ
การประเมิน
ประเมินตนเอง
วันนี้ไม่ค่อยมีสมาธิที่จะเรียนเนื่องจากปวดหัวมาก แต่ออกมาศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติมทางอินเตอร์เน็ตเพื่อต่อยอดการเรียนรู้ให้มีความต่อเนื่อง
ประเมินเพื่อน
มีความเสนอความคิดเห็นเเละมีการตั้งคำถามในห้องเรียน ทำให้บรรยากาศในห้องเรียนมีความสนุกสนาน
ประเมินอาจารย์
อาจารย์มีการยกตัวอย่างพฤติกรรมของเด็กพิเศษให้ดูเป็นตัวอย่างจึงทำให้เข้าใจเนื่้อหามากขึ้น และใช้คำถามในการกระตุ้นการเรียนรู้ของนักศึกษาได้อย่างสนุกสนาน



วันพุธที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2557

          บันทึกอนุทินครั้งที่ 8
         วันอังคารที่ 14 ตุลาคม 2557

ความรู้ที่ได้รับ

                 LD เป็นโรคที่จะต้องได้รับความช่วยเหลือ ควรได้รับการวางแผนการเรียนเป็นรายบุคคล (Individualized Educational Program, IEP) เพื่อปรับหลักสูตรการเรียนและวิธีการประเมินให้เหมาะสม เช่น เน้นการฟัง การเห็น การลงมือทำ หรือใช้เครื่องมือช่วยในการเรียนรู้ เช่น วิดีโอ คอมพิวเตอร์ ซึ่งจะช่วยให้สามารถเรียนได้ในโรงเรียนปกติ โรค Autism เป็นความผิดปกติในสมอง เด็กที่เป็นจะมีปัญหาเรื่อง การสื่อสาร ความสัมพันธ์ กับคนรอบข้างและสิ่งแวดล้อม เด็กบางคนสามารถสื่อสารกับผู้อื่นและก็มีความฉลาด แต่เด็กบางคนเป็นเด็กปัญญาอ่อน ไม่พูด เด็กบางคนก็มีพฤติกรมทำซ้ำซาก จะเห็นว่าเด็กแต่ละคนมีอาการไม่เหมือนกัน ความรุนแรงไม่เท่ากัน แต่จะมีปัญหาทางสังคม การสื่อสาร พฤติกรรม กล้ามเนื้อและความรู้สึก

บุคคลที่เป็นเด็กพิเศษ
Thomas Alva Edison :  อดีตเคยเป็นเด็ก LD ที่มีความบกพร่องทางการอ่านเเละเขียน 
       

Iris Grace :เป็นเด็กออทิสติกทที่มีความสามารถในการวาดรูปโดยมีแมวน้อยเป็นเพื่อน

การนำความรู้ไปใช้
- เข้าใจพฤติกรรมของเด็กมากขึ้น
- วิธีการพัฒนาทักษะทางชีวิตของเด็กพิเศษ
- รู้จักวิธีการสังเกต วัดผลและประเมินเด็กพิเศษในขั้นต้น

การประเมิน
ประเมินตนเอง
แต่งกายเรีบยร้อย มีความตั้งใจเเละเข้าใจเนื้อหาที่อาจารย์สอนเป็นอย่างดี
ประเมินเพื่อน 
เพื่อนให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรมภายในห้องเรียนอย่างเต็มที่และสนุกสนาน
ประเมินอาจารย์ 
อาจารย์สอนสนุกมาก มีการยกตัวอย่างเพื่อทำให้เข้าใจถึงพฤติกรรมของเด็กพิเศษได้อย่างไม่น่าเบื่อ


                                                   

วันพุธที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2557



     บันทึกอนุทินครั้งที่ 7
    วันอังคาร ที่  30 กันยายน  พ.ศ 2557


                              เข้าอบรมในหัวข้อเรื่องจิตอาสาตามรอยเเนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง